ชานมไข่มุก ของหวานยอดนิยมที่เข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศ ทุกวัย เพราะว่า มีรสชาติหวาน อร่อย ราคาถูก และหาซื้อได้ง่าย ทั้งตามท้องตลาด และตามห้างสรรพสินค้า แต่ความหวาน และความอร่อย ของชาไข่มุกนั้น มาพร้อมกับโรคร้าย ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงมีวิธีกินชาไข่มุกอย่างไร ให้ห่างไกลจากโรคร้าย
ชานมไข่มุก คืออะไร?
ชานมไข่มุก คือ เครื่องดื่มชนิดเย็น รสชาติหวาน มีส่วนประกอบด้วย น้ำชา นม หรือชาผลไม้ ส่วนไข่มุกทำมาจาก เแป้งมันสัมปะหลัง ผสมโกโก้ และน้ำตาลทรายแดง ปั้นเป็นเม็ดเล็กๆ มีจุดกำเนิดจาก ประเทศไต้หวัน ในช่วงทศวรรษที่ 1980
ในปัจจุบันมี การแก้ไขปรับปรุงสูตรให้เข้ากับยุคสมัย เช่น การแต่งกลิ่นของรสชาติชานม ไม่ว่าจะเป็น ชานมกล้วย ชานมช็อกโกแลต หรือชานมข้าวเหนียวมะม่วง การโรยท็อปปิ้งหน้าต่างๆ เช่น นมข้นหวาน ผงโกโก้ วิปครีม และเยลลี่รสชาติต่างๆ ส่วนไข่มุกเอง ก็มีการเติมสีผสมอาหารลงไปให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น หรือเปลี่ยนเป็นวุ้นเยลลี่ฟลุ๊ตสลัด
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ชานมไข่มุก 1 แก้ว จะให้พลังงาน 240-360 กิโลแคลอรี หากรับประทานมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในวัยเด็ก ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน และผู้ป่วยโรคเบาหวาน
โรคที่เกิดจาก ชานมไข่มุก
โรคเบาหวาน : องค์การอนามัยโลกได้กำหนดการบริโภคน้ำตาลในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา ชานมไข่มุกมีส่วนผสมหลักคือ น้ำตาล และแป้ง ในหนึ่งแก้วจะมีน้ำตาล และคาร์โบไฮเดตจากไข่มุก ที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลอีก ทำให้การบริโภคชานมไข่มุกวันล่ะหนึ่งแก้ว มีสิทธิที่จะได้รับน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา และถ้าบริโภคเป็นประจำ จะทำให้ผู้บริโภคนั้นมีสภาวะน้ำหนักเกิน และเป็นโรคเบาหวานได้
โรคอ้วน : การบริโภคชานมไข่มุกอย่างต่อเนื่อง เป็นพฤติกรรมหนึ่งที่จะก่อให้เกิดโรคอ้วน คือการมีสภาวะน้ำหนักเกิน การอ้วนลงพุง แขน และขามีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้โรคอ้วนอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจหลอดเลือด และโรคไขข้อเสื่อม เป็นต้น
โรคหลอดเลือด และหัวใจ : ในส่วนประกอบของชานมไข่มุก เต็มไปด้วยน้ำตาล และไขมันชนิดเลว (LDL) ซึ่งจะเพิ่มไตรกลีเซอร์ไรด์ ถ้ารับประทานมากกเกินไป ทำให้ร่างกายกำจัดไตรกลีเซอร์ไรต์ได้ไม่หมด ส่งผลให้เป็นโรคหลอดเลือด และหัวใจได้
วิธีกินชานมไข่มุกอย่างไร ให้ปลอดโรค
1. เลือกแก้วขนาดที่เล็กที่สุด รับประทานชานมไข่มุกแค่พอประมาณ เพราะ ชาไข่มุกเป็นเครื่องดื่มแคลอรีสูง ไม่ใช่เป็นอาหารหลัก
2. ลดระดับความหวานให้ต่ำที่สุด ชานมไข่มุกรสชาติหวานปกติมักจะมีปริมาณน้ำตาลเยอะอยู่แล้ว ทำให้การบริโภคน้ำตาลในแต่ล่ะวันเกินกว่า 6 ช้อนชาได้ ดังนั้นควรลดระดับน้ำตาลที่ละขั้น จนถึงขั้นไม่หวานเลย จะยิ่งดี
3. ลดอาหาร ในวันที่รับประทานชานมไข่มุก ควรลดปริมาณอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ในวันที่รับประทานชานมไข่มุก เพื่อไม่ให้ได้รับปริมาณน้ำตาล และไขมันเลว (LDL) จนมากเกินไป
ความอร่อยของชาไข่มุก ที่มาพร้อมกับโรคร้าย โดยเฉพาะในวัยเด็ก เพราะนอกจากโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ และหลอดเลือดแล้ว เด็กที่บริโภคชานมไข่มุก อาจจะเกิดอุบัติเหตุ เช่น ไข่มุกติดคอได้ อีกทั้งน้ำตาลสามารถทำให้ฟันผุได้อีกเช่นกัน ดังนั้นการบริโภคชานมไข่มุกสามารถรับประทานได้ให้ถูกวิธี และไม่บ่อยครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/Pearl-milk-tea-how-to-eat-to-be-far-away-from-disease