จังหวัดระยองมีทุ่งโปรงทองที่สมบูรณ์และสวยงาม ฟรีค่าเข้า จ่ายแค่ค่ารถพ่วงคนละ 8 บาท/เที่ยว หาก
ลงเรือหางยาวล่องคลองชมป่าชายเลนออกไปปากน้ำประแส จ่ายค่าเรือคนละ 50 บาท ก็จะได้ใกล้ชิด
ธรรมชาติ อุดหนุนคนท้องถิ่น และปลื้มปริ่มกับรูปสวยๆ
ขาไปลงเรือหางยาวที่ท่าเทียบเรือบ้านแสมผู้ เพื่อชมคลองแสมผู้ ความยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ลัด
เลาะไปตามป่าชายเลน ออกไปชมปากแม่น้ำประแสที่ไหลสู่ทะเล ใช้เวลาราว 30 นาที สามารถเดินไปนั่งโพส
ท่าถ่ายรูปที่หัวเรือ
ขากลับขึ้นเรือที่ท่าเรือใกล้ศาลเจ้าพ่อแสมผู้ แล้วเดินบนสะพานไม้ศึกษาธรรมชาติ เข้าสู่ลาน
ทุ่งโปรงทองที่โอบล้อมรอบตัว ถือเป็นไฮไลท์สำคัญทีเดียว
ล่องเรือหางยาวของชาวบ้านลัดเลาะไปตามคลองแสมผู้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ได้มีการขุดลอก
แต่อย่างใด ผืนดินแถวนี้เดิมมีความอุดมสมบูรณ์ คลองกว้างและน้ำเชี่ยวกว่านี้ แต่ถูกบุกรุกจนเสื่อมโทรม ต่อ
มาทางการและชาวบ้านได้เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันฟื้นฟูให้กลับมาสมบูรณ์ขึ้น กลายเป็นป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุด
ของระยอง เป็นแหล่งทำกินทางการเกษตรและการประมงของชุมชนบ้านแสมภู่ มีเนื้อที่มากกว่า 6,000 ไร่ ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้โลกร้อนปัจจุบันคลองมีความยาวราว3
กิโลเมตร เรือแล่นช้าๆ พาเราชมป่าชายเลนสองข้างทางที่สวยงามแปลกตาจากรากต้นโกงกางที่โผล่พ้นน้ำ
โยงใยไขว้กันไปมา ได้ยินเสียงค้างคาวแม่ไก่ร้องดัง และเห็นกระรอกเป็นระยะ ตัวเงินตัวทองก็มีแต่พวกเรา
ไม่เจอ! คนขับเรือนำกล้วยน้ำหว้ามาวางแบ่งให้กระรอกกิน และเชิญชวนลูกค้าช่วยสมทบทุน
เรือแล่นออกไปยังปากน้ำสู่ทะเล ผ่านจุดเลี้ยงหอยแมลงภู่ และไม้ที่ปักไว้ชะลอคลื่น จุดนี้สามารถมอง
เห็นเกาะมันนอก เกาะมันกลาง และเกาะมันใน อยู่ลิบๆ ฟ้าสวย ทะเลกว้าง เพลินกับวิวสองข้างมาก จากนั้น
เรือก็แล่นวกกลับ
สักการะศาลเจ้าพ่อแสมผู้ - เรือพาเรามาส่งที่ท่าเรือใกล้ศาลเจ้าพ่อแสมผู้ เพื่อให้เดินเข้าไปสะพาน
ศึกษาธรรมชาติสู่ทุ่งโปรงทอง แวะสักการะเจ้าพ่อแสมผู้กันก่อน ชาวบ้านนับถือกันมากเพราะท่านช่วยให้จับ
ปลาได้มาก จึงมาสร้างศาลถวายเพิ่มเติม ส่วนศาลหลังเก่านั้นไม่ปรากฏแน่ชัดว่าสร้างตั้งแต่เมื่อใดสะพานเดิน
ศึกษาธรรมชาติ - สะพานไม้ทอดยาวมากกว่า 2กิโลเมตรให้นักท่องเที่ยวได้เดินเข้าไปชมทุ่งโปรงทองแบบ
ใกล้ชิด มีป้ายและมุมถ่ายรูปสวยๆ พอสมควร ไม่มากจนเกินไป นอกจากต้นโปรงและโกงกางแล้ว ยังมี
ต้นไม้อื่น เช่น ต้นตะบูนต้นลำพู และต้นแสม ซึ่งทริปนี้มีรายการที่เราพลาดชมไปอย่างน่าเสียดาย คือ
การไปชม ต้นแสมยักษ์ เนื่องจากไม่ได้เดินลึกเลยเข้าไป แต่เราได้แวะให้อาหารปลาที่สะพานเล็กๆ มีอาหาร
ปลาจัดวางไว้ และได้ขึ้นหอชมวิว 3 ชั้น สามารถเดินขึ้นบันไดสบายๆ แบบไม่เหนื่อย เมื่อขึ้นไปยืนที่ชั้นบนสุด
ก็จะได้เห็นภาพคลองแสมผู้และป่าโกงกางจากมุมสูง โดยไม่ต้องใช้โดรน
ทุ่งโปรงทองเกิดจากต้นโปรงที่ขึ้นกันหนาแน่นบนพื้นที่ป่าชายเลนที่น้ำท่วมถึง ขึ้นเยอะอัดแน่น 360
องศา ใบมีสีเขียวเหลือง เมื่อยอดต้นโปรงต้องแสงแดดจะเห็นเป็นสีเหลืองทองระเรื่อสวยงามยิ่ง เรียกขานกัน
ว่าทุ่งโปรงทอง ทุกคนที่มาชอบที่นี่มาก
เมื่อเดินเข้าเขตทุ่งโปรงทองเท่านั้น เสียงกรี๊ดของชาวคณะของดังขึ้น ต่างตื่นเต้นกับวิวรอบตัวที่เหมือน
เราอยู่ในวงล้อมของลานทุ่งโปรงทอง ก็วิ่งเข้ากล้องกันให้วุ่น มีป้ายสีสันสดใสแฝงตัวอยู่ในทุ่งโปรงทองเป็น
ระยะ บางมุมก็เป็นลานไม้กว้างพร้อมที่นั่งยกพื้นขึ้นมา ถือเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงาม
ที่มา : https://travel.trueid.net/detail/DEZNJX329wYE